Kaposi's sarcoma เป็นมะเร็งที่พัฒนาในเลือดและต่อมน้ำเหลือง อาการที่พบมากที่สุดของ Kaposi's sarcoma คือแผลสีแดงสีม่วงที่สามารถปรากฏที่ใดก็ได้ในร่างกายและอาจสับสนกับโรคมะเร็งผิวหนัง
สาเหตุของการโจมตีของ Kaposi's sarcoma คือการติดเชื้อโดยเชื้อไวรัส Herpes Family type ที่เรียกว่า HHV 8 หรือ KSHV ไวรัสนี้ถูกส่งผ่านทางเพศและผ่านทางน้ำลาย การติดเชื้อไวรัสตัวนี้ไม่เพียงพอสำหรับการเริ่มมีอาการของโรคมะเร็งและจำเป็นที่บุคคลจะมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอเมื่อเกิดขึ้นกับคนที่ ติดเชื้อเอชไอวี หรือผู้สูงอายุ
มี Kaposi sarcomas 4 ประเภท:
- คลาสสิก : หาได้ยากวิวัฒนาการช้าและเข้าถึงผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกบุกรุก;
- ถิ่นหรือแอฟริกัน : ค่อนข้างก้าวร้าวและเข้าถึงเยาวชนผิวดำจากทวีปแอฟริกา
- หลังการปลูกถ่าย : เกิดขึ้นหลังจากการปลูกถ่ายไตส่วนใหญ่เมื่อมีบุคคลที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- เกี่ยวข้องกับโรคเอดส์ : รูปแบบที่รุนแรงมากขึ้นของมะเร็งและมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
Kaposi ของ sarcoma สามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เมื่อกระทบหลอดเลือดของอวัยวะอื่น ๆ เช่นปอดตับหรือทางเดินอาหารทำให้เลือดออกที่ยากต่อการควบคุม
ภาพถ่ายของ Kaposi's sarcoma
อาการของ Kaposi sarcoma
อาการที่พบมากที่สุดของเนื้อเยื่อ Kaposi คือแผลผิวหนังสีแดงม่วงกระจายอยู่ทั่วร่างกายและอาการบวมที่ขาลดลงเนื่องจากการเก็บของเหลว ในผิวดำแผลอาจเป็นสีน้ำตาลหรือสีดำ
ในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดที่ Kaposi's sarcoma ถึงระบบทางเดินอาหารอาจมี:
- เลือดออกในลำไส้,
- ปวดท้อง,
- คลื่นไส้
- อาเจียน
บุคคลที่ติดเชื้อเอชไอวีอาจทำให้เกิดเนื้อร้าย ของ Kaposi ในผู้ที่โรคมะเร็งมาถึงปอดทำให้หายใจล้มเหลวหายใจลำบากเจ็บหน้าอกและเสมหะด้วยเลือด
การวินิจฉัย Kaposi's sarcoma ดำเนินการโดยการตรวจชิ้นเนื้อและยืนยันโดยการวิเคราะห์ทางพยาธิวิทยา
การรักษา Kaposi's sarcoma
การรักษา Kaposi's sarcoma อาจเป็นการใช้ เคมีบำบัดการ ฉายรังสีการบำบัดด้วย ภูมิคุ้มกัน และยาเพื่อยับยั้งการก่อตัวของหลอดเลือดใหม่ การใช้ ยาต้านไวรัส ช่วยชะลอการเกิดโรคและส่งเสริมการถดถอยของแผลผิวหนังโดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคเอดส์
Kaposi's sarcoma มีวิธีรักษา แต่ขึ้นอยู่กับสภาพอายุและสภาพของระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย