E. enterotoxigenic E. coli หรือที่เรียกว่า ETEC หรือ enterotoxigenic Escherichia coli เป็นแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบส่วนใหญ่ในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีและผู้ที่เดินทางมาเยือนประเทศอุตสาหกรรมไปยังพื้นที่ที่ด้อยพัฒนาและเป็นสาเหตุของโรคท้องร่วงที่เรียกว่า ท้องร่วงของนักท่องเที่ยว
E. coli ชนิดนี้ถูกส่งผ่านการกินอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนไปด้วยอุจจาระจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องหลีกเลี่ยงการใช้น้ำสาธารณะและเพื่อให้แน่ใจว่าอาหารที่ซื้อนอกบ้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดินทางไปยังประเทศอื่น ๆ นี่คือเคล็ดลับบางอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงการรับประทานแบคทีเรีย
การติดเชื้อ E. coli ที่เป็น enterotoxigenic จะได้รับการรักษาให้หายขาดด้วยปริมาณน้ำที่เพียงพอและอาหารที่เบา แต่มีบางกรณีที่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะตามที่แพทย์กำหนด
อาการหลัก
อาการที่พบมากที่สุดของการติดเชื้อในลำไส้ที่เกิดจาก enterotoxigenic E. coli รวมถึง:
- ท้องเสียกับน้ำมาก
- ปวดท้องรุนแรง;
- ไข้และหนาวสั่น;
- คลื่นไส้อาเจียน;
- ปวดหัว;
- สูญเสียความกระหาย;
- ปวดกล้ามเนื้อ
อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นจาก 12 ชั่วโมงเป็น 3 วันหลังจากการบริโภคน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อนแบคทีเรียและระยะเวลาของการเจ็บป่วยประมาณ 5 วัน
อาการเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกับโรคกระเพาะลำไส้อักเสบที่เกิดจากเชื้อจุลินทรีย์อื่น ๆ ดังนั้นหลายคนจึงไม่ทราบว่าเชื้อแบคทีเรียตัวนี้ติดเชื้อ แต่สาเหตุหลักของอาการท้องร่วงเมื่อเดินทางไปยังประเทศอื่น ๆ
วิธีการยืนยันการวินิจฉัย
วิธีเดียวที่จะระบุแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อในลำไส้คือการทำแบบทดสอบอุจจาระในห้องปฏิบัติการซึ่งระบุเชื้อแบคทีเรียทั้งหมดไว้ ดังนั้นเมื่อแบคทีเรียนี้ถูกพบมักจะเป็นผู้รับผิดชอบการติดเชื้อ
อย่างไรก็ตามในกรณีส่วนใหญ่การวินิจฉัยจะทำเฉพาะโดยการสังเกตอาการโดยทั่วไปผู้ประกอบการและการตรวจอุจจาระมีการร้องขอเฉพาะเมื่ออาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป
การรักษาทำได้อย่างไร?
การรักษาโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบที่เกิดจาก enterotoxigenic E.coli มักจะทำในส่วนที่เหลือที่บ้านหลีกเลี่ยงการไปโรงเรียนหรือทำงานและดื่มของเหลวเพื่อหลีกเลี่ยงการคายน้ำที่เกิดจากอาการท้องร่วง
นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำหนักเบาหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลไขมันหรือเผ็ดเกินไปเนื่องจากสามารถเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้ได้ ตรวจสอบสิ่งที่อาหารควรมีในกรณีของกระเพาะและลำไส้อักเสบ
ในกรณีที่อาการไม่ดีขึ้นหลังวันที่ 2 หรือ 3 วันแนะนำให้ไปพบแพทย์ทั่วไปหรือ gastroenterologist เพื่อประเมินความจำเป็นในการเริ่มใช้ยาปฏิชีวนะเช่น trimethoprim-sulfamethoxazole 160mg - 800mg วันละสองครั้งหรือ doxycycline 100 มก. วันละครั้งเป็นเวลา 5 วัน